ทีเส็บขานรับนโยบายรองนายกรัฐมนตรีขับเคลื่อนเศรษฐกิจ วางยุทธศาสตร์ชู “ธุรกิจดีไมซ์” ยกระดับและกระจายรายได้ให้ประเทศอย่างยั่งยืน

22 มกราคม 2559 กรุงเทพฯ: สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ขานรับนโยบายรัฐบาล ชูแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศด้วย “ธุรกิจดีไมซ์” เน้นการนำเสนอเดสติเนชั่นใหม่ เพิ่มพื้นที่ใหม่ๆสำหรับการจัดกิจกรรม วางโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดและการขายครบทุกธุรกิจ ชูศักยภาพเมืองไมซ์ด้วย Flagship Event และขยายกลุ่ม MICE Cluster เพิ่มทางเลือกด้านสินค้าและบริการ พร้อมดึงไมซ์ CLMV เข้าไทยตั้งเป้าตลาดไมซ์ในประเทศเติบโตก้าวกระโดดในไตรมาส 2 และ3 ของปีนี้

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ ทีเส็บ เปิดเผยว่า “จากที่รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้มอบนโยบายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยคณะทำงานร่วมรัฐ-เอกชน-ประชาชน (ประชารัฐ) ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจไมซ์ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไมซ์และการท่องเที่ยวตามแนวทางทั้ง การเพิ่มกระจายรายได้ การยกระดับรายได้ และการสร้างความยั่งยืนของธุรกิจไมซ์และท่องเที่ยว โดยในส่วนของทีเส็บนั้นได้กำหนดแผนการขับเคลื่อนธุรกิจไมธุรกิจไมซ์ที่สอดคล้องกัน

1.แนวทางแรก การกระจายรายได้ และยกระดับรายได้ด้วยธุรกิจไมซ์ภายในประเทศ เริ่มด้วย มาตรการ Quick Win ส่งเสริมการประชุมและสัมมนาในประเทศโดยเน้น “New Destination” ที่รองรับกลุ่มการประชุมและสัมมนาภายในประเทศ โดยเฉพาะการศึกษาดูงาน การจัดกิจกรรมเพื่อองค์กร ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหรือโครงการส่วนพระองค์ต่างๆ โดยเฉพาะในปี 2559 เป็นปี 3 ปิติ ที่จะมีงานเทิดพระเกียรติยิ่งใหญ่ จำนวน 3 งาน (1) ครบรอบ 70 ปีครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (2) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา หรือ 7 รอบ (3) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา ทีเส็บจึงได้คัดเลือกโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหรือโครงการส่วนพระองค์ของทุกพระองค์ ที่มีศักยภาพในการรองรับกลุ่มประชุมสัมมนาเข้าร่วมโครงการเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์พระอัจฉริยภาพในทุกๆ ด้านของราชวงศ์จักรีและเป็นการกระตุ้นให้เกิดการประชุม สัมมนาในประเทศมากยิ่งขึ้น ต่อด้วย การเสนอ “QUICK WIN Promotion” ให้แก่นักเดินทางกลุ่มดีไมซ์ทั้งด้านของกลุ่มประชุม สัมมนา แสดงสินค้าในประเทศ โดยกลุ่มประชุม สัมมนา (Domestic Meetings and Incentives และ Domestic Conventions) จะสนับสนุนด้านงบประมาณตั้งแต่ 3 หมื่นบาท ถึง 8 แสนบาทขึ้นอยู่กับจำนวนกลุ่มผู้เข้าประชุม โดยการสนับสนุนนั้นจะนำไปใช้สำหรับกิจกรรมที่ส่งเสริมการประชุม สัมมนา อาทิ การจัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กลุ่ม (Team Building) การจัดทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม (CSR) ค่าอาหารว่างสำหรับการประชุม รวมทั้งค่าวิทยากร

สำหรับการแสดงสินค้าภายในประเทศ (Domestic Exhibition) จะสนับสนุนงานแสดงสินค้าที่มีการกระจายงานไปสู่ภูมิภาค (clone) และการสร้างงานแสดงสินค้าใหม่ในต่างจังหวัด (Invent) โดยให้การสนับสนุนงบประมาณตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 บาท เพื่อให้มีการกระจายการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ สำหรับในช่วงไตรมาส 2-3 ของปี 2559 นั้นจะเน้นการกระตุ้นตลาดในประเทศ ประเภทการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Domestic Meetings and Incentives) เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายได้มากที่สุดในช่วงครึ่งปีสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล


แนวทางที่สอง การสร้างความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจไมซ์ ซึ่งนับเป็น มาตรการระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลจะเน้นการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ด้วยการเพิ่มศูนย์ประชุมนานาชาติ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆในกลุ่มจังหวัด การเพิ่มพื้นที่ใหม่ๆสำหรับการจัดกิจกรรมและการเพิ่มสินค้าและบริการในท้องถิ่น รวมทั้งการปรับปรุงกฏหมาย ข้อระเบียบเพื่อส่งเสริมกิจกรรมด้านไมซ์และการท่องเที่ยว ซึ่งในมาตรการนี้ทีเส็บได้เน้นย้ำลงในแผนการทำงานเชิงปฏิบัติเพื่อพัฒนา “เมืองไมซ์ซิตี้ของประเทศไทย” เน้นการชูศักยภาพของเมืองไมซ์ด้วย “Flagship Event” หรือ งานอีเวนต์ที่สำคัญเพื่อเป็นจุดขายและเสริมให้เกิดการใช้พื้นที่ในการจัดงานไมซ์ รวมทั้งการขยาย MICE Cluster สร้างทางเลือกด้านเดสติเนชั่นและสินค้าและบริการใหม่และหลากหลายให้แก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์ดึงลูกค้ากลุ่มการจัดประชุมของบริษัทจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดอาเซียน ซึ่งขยายตัวอย่างต่อเนื่องและไทยสามารถใช้จังหวะนี้เสนอตัวเป็นประเทศในการจัดประชุมสัมมนา โดยเฉพาะจุดแข็งในการเข้าถึงตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งทีเส็บได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อดึงนักเดินทางจากกลุ่มCLMV มาจัดกิจกรรมไมซ์ในประเทศไทย

“นอกจากนี้คณะกรรมการ สสปน. ยังได้ผลักดันให้มีร่างพระราชบัญญัติอุตสาหกรรมไมซ์เพื่อส่งเสริมการลงทุนภาคบริการทั้งหมด ซึ่งพระราชบัญญัตินี้จะเป็นการนำเสนอแพคเกจพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ มีสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ อาทิ การลดหย่อนภาษี เป็นต้น ซึ่งการมีพระราชบัญญัตินั้นจะเป็นการส่งเสริมวงจรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไมซ์อย่างยั่งยืน สนองตอบต่อความต้องการทั้งหน่วยงานภาคเอกชน ตลอดจนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากประเทศไทยในการเป็นเดสติเนชั่นของการจัดงานไมซ์”

การดำเนินงานด้านการส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศ หรือธุรกิจดีไมซ์ ปีงบประมาณ 2558 มีนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศจำนวน 23,702,488 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายถึง 46,401 ล้านบาท และเป้าหมายในปีงบประมาณ 2559 นั้น ทีเส็บ ได้ตั้งเป้าหมายด้านจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศและรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5-10 และคาดว่าในไตรมาสที่ 2 และ 3 น่าจะมีอัตราการขยายตัวที่เติบโตขึ้นด้วยมาตรการ QUICK WIN ที่ทีเส็บเร่งดำเนินการ ทั้งนี้ในปี 2559 มีกิจกรรมดีไมซ์สำคัญต่อเนื่อง อาทิ งาน Thailand Domestic MICE Mart 2016 งาน Luangprabang-Indochina-Mawlamyine Economic Corridor (LIMEC) International Conference “PhuDoo” 2016 งานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ งานประชุม 50 ปีสมาคมการจัดงานบุคลากรแห่งประเทศไทย เป็นต้น

###

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ส่วนงานสื่อสารองค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)

นางสาวอริสรา ธนูแผลง ผู้จัดการอาวุโส โทรศัพท์ 02-694-6095    อีเมล arisara_t@tceb.or.th

นางสาวกนกวรรณ กะดีแดง ผู้จัดการ    โทรศัพท์ 02-694-6006 อีเมล kanokwan_k@tceb.or.th

นางสาวขวัญชนก อดทน    ผู้ปฏิบัติการ    โทรศัพท์ 02-604-6096    อีเมล kwanchanok_o@tceb.or.th

นางสาวปนิยดา มุลาลินน์    ผู้ปฎิบัติการ โทรศัพท์ 02-694-6091    อีเมล paniyada_m@tceb.or.th

แชร์บทความ