ทีเส็บ ดึงงาน UFI Open Seminar in Asia 2016 ขานรับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ส่งเสริมธุรกิจภาคบริการ ดันอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติสู่เวทีกระจายการค้าและการลงทุน

15 ธันวาคม 2558 / กรุงเทพมหานคร - สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ สนองนโยบายรัฐบาลแผนยุทธศาสตร์ชาติ ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจภาคบริการของไทย (2555-2559) เดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขัน อุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของไทย พร้อมดันงานแสดงสินค้าสู่เวทีกลางในการกระจายการค้าและการลงทุน ดึงงาน UFI Open Seminar in Asia สู่จังหวัดเชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2559 เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและยกระดับอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติและคุณภาพการให้บริการของผู้ประกอบการไทย ต่อยอดผลักดัน “เชียงใหม่” สู่ ประตูสู่การค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ GMS

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ ทีเส็บ กล่าวว่า “การสนับสนุนการจัดงาน UFI Open Seminar in Asia 2016 ที่จะจัดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่นั้น นับเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ และยกระดับความรู้ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานโลก ซึ่งอุตสาหกรรมไมซ์นั้นนับเป็นหนึ่งในธุรกิจบริการที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ อยู่ภายใต้ความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน หรือ AFAS (ASEAN Frameworks Agreement on Service) ดังนั้น อุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติไม่เพียงแต่จะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสนับสนุนที่จะส่งเสริมการค้าและการลงทุนให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงแล้ว หากแต่ยังเป็นเวทีที่จะช่วยกระตุ้นและกระจายการค้าการลงทุนไปสู่ระดับภูมิภาคได้เป็นอย่างดี”

ทีเส็บได้วางแนวนโยบายการดำเนินงานส่งเสริมอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของไทยให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมธุรกิจภาคบริการ พร้อมๆ กับกระจายการค้าและการลงทุนไปสู่ระดับภูมิภาค โดยได้เร่งผลักดันให้เกิดการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในจังหวัดที่มีศักยภาพและมีความพร้อมด้านศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต สงขลา ขอนแก่น เป็นต้น ตามแนวทางยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ที่ขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นประเทศรายได้สูงที่มีการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม เป็นศูนย์กลางด้านการค้าและบริการของภูมิภาค (Trading and Service Nation)

“จังหวัดเชียงใหม่ไม่เพียงแต่จะเป็นหนึ่งในห้าเมืองหลักที่ทีเส็บได้ส่งเสริมและยกระดับให้เป็นไมซ์ซิตี้แล้ว แต่เชียงใหม่ยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนของไทยในภาคเหนือ และเป็นประตูสู่การขยายการค้าไปยังกลุ่มประเทศในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และที่ผ่านมาทีเส็บได้สนับสนุนการจัดงาน UFI Open Seminar in Asia ขึ้นแล้วก่อนหน้านี้เมื่อปี 2553 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทีเส็บจึงได้ผลักดันให้มีการจัดการประชุม UFI Open Seminar in Asia ขึ้นอีกครั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ในปี 2559 เพื่อขานรับนโยบายรัฐบาล และช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ สมาคมการค้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัดเล็งเห็นถึงความสำคัญ และใช้เวทีการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติเป็นส่วนหนึ่งในการขยายโอกาสการค้าในจังหวัดและภูมิภาค” นายนพรัตน์ กล่าว

มร.มาร์ค โคเครน ผู้จัดการฝ่ายภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค สมาคมอุตสาหกรรมนิทรรศการระดับโลก หรือ UFI เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของไทยประเทศไทยมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอัตราการเติบโตร้อยละ 27-33 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าการเติบโตของภูมิภาคที่มีค่าเฉลี่ยการเติบโตอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 อีกทั้งการเติบโตของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคอาเซียนยังเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคเอเชียเติบโตขึ้นตามลำดับ การจัดงาน UFI Open Seminar in Asia 2016 ในจังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะทาง UFI จะเล็งเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมทั้งในด้านสถานที่การจัดงาน แต่ยังเป็นการจัดงานครั้งแรกของ UFI ในฐานะที่ได้เปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการ แต่ประเทศไทยยังเปรียบเสมือนศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน และยังสามารถเชื่อมโยงไปยังกลุ่มประเทศ GMS และ CLMV

งาน UFI Open Seminar in Asia 2016 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2559 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด Digital Disruption ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทและอิทธิพลของการตลาดยุคดิจิตอลว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการและจะปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติในอนาคตได้อย่างไร โดยภายในงานมีหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจมากมาย อาทิ The Outlook of ASEAN Exhibition Market, Digital Trends Shaping Events, Assessing the Impact of Digital Disruption, Mobile Marketing Trend เป็นต้น


ทางด้านคุณประพีร์ บุรี นายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) หรือ TEA กล่าวถึงความสำคัญของการงานครั้งนี้ว่า “การจัดงานประชุม UFI Open Seminar in Asia 2016 ในครั้งนี้จะเป็นการได้ความรู้ รวมถึงเปิดโอกาสให้ต่างชาติได้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย รวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสและสร้างเครือข่ายให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในประเทศไทยเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตนต่อไปโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานที่ต้องการนำเสน่ห์ของความเป็นเชียงใหม่ผ่านการให้บริการอย่างมีคุณภาพควบคู่ไปกับการความเป็นมืออาชีพในระดับสากลเพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดงานในจังหวัดเชียงใหม่ให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล อันจะเป็นการต่อยอดส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจภาคบริการของไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน และสำหรับสมาชิกของสมาคมฯที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถขอรับการสนับสนุนและสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในะระหว่างการเข้าร่วมงาน โดยสมาชิกที่สนใจสามารถสอบถามได้ทางสมาคม”

“การจัดงาน UFI Open Seminar in Asia 2016 ในครั้งนี้ จะช่วยประชาสัมพันธ์ศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นที่ยอมรับ และเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันในกลุ่มอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ อันจะช่วยต่อยอดผลักดันให้เกิดการกระจายการค้าและการลงทุนไปสู่ระดับภูมิภาคได้ตามแนวนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งจะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคอาเซียน และเป็นหนึ่งในผู้นำของภูมิภาคเอเชีย ควบคู่ไปกับการขยายโอกาสในการสร้างพันธมิตรและเครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการในระดับนานาชาติต่อไป” นายนพรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ทีเส็บคาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2559 จะมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์และรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 คิดเป็นจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1,060,000 คน สร้างรายได้ 92,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้จะประกอบด้วยตลาดแสดงสินค้านานาชาติ 191,000 คน และรายได้ 15,650 ล้านบาทซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 17% ของรายได้ตลาดไมซ์รวม

# # #

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ส่วนงานสื่อสารองค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)

นางสาวอริสรา ธนูแผลง ผู้จัดการอาวุโส โทรศัพท์ 02-694-6095    อีเมล arisara_t@tceb.or.th

นางสาวกนกวรรณ กะดีแดง ผู้จัดการ    โทรศัพท์ 02-694-6006 อีเมล kanokwan_k@tceb.or.th

นางสาวขวัญชนก อดทน    ผู้ปฏิบัติการ    โทรศัพท์ 02-604-6096    อีเมล kwanchanok_o@tceb.or.th

นางสาวปนิยดา มุลาลินน์    ผู้ปฎิบัติการ โทรศัพท์ 02-694-6091    อีเมล paniyada_m@tceb.or.th

แชร์บทความ