รายงานสถานการณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)




รายงานสถานการณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)

เรื่อง  แนวปฏิบัติสำหรับสนามบินและสายการบินเส้นทางภายในประเทศ

วันที่ 21 กรกฎาคม 2564


สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศ ฉบับที่ 3 วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการสายการบินเส้นทางภายในประเทศโดยห้ามสายการบินในประเทศบรรทุกผู้โดยสารบินเข้าออกพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) มีผลบังคับใช้วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เพื่อให้สอดคล้องกับการยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคตามข้อกำหนด ฉบับที่ 28  และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ที่ 10/2564 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 โดยได้กำหนดรายละเอียดของแนวปฏิบัติไว้ดังนี้

1. ให้ยกเลิกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ฉบับที่ 2 ประกาศ ณ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และให้ใช้ประกาศฉบับที่ 3 ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 แทน 
          
2. ห้ามสายการบินให้บริการผู้โดยสาร (Passenger Flight) เที่ยวบินภายในประเทศ (Domestic Flight) รับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน เว้นแต่
        2.1 เป็นเที่ยวบินที่เกี่ยวข้องกับโครงการพื้นที่นำร่องเปิดประเทศ (Sandbox)  
        2.2 เป็นกรณีอากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน (Emergency Landing) หรือขอลงทางเทคนิค (Technical Landing)โดยไม่มีผู้โดยสารลงจากเครื่อง
        2.3 มีความจำเป็นและได้รับอนุญาตจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยต้องแสดงหลักฐานความจำเป็นประกอบการขออนุญาต เช่น เพื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ เพื่อการรับวัคซีน เป็นต้น

3. กรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบินและการรวมเที่ยวบิน ให้สายการบินแจ้งและดูแลผู้โดยสารอย่างเหมาะสม ตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางบินประจำภายในประเทศ พ.ศ. 2553 สำหรับเที่ยวบินที่ให้บริการระหว่างประเทศ (International Flight) และเที่ยวบินขนสินค้าที่ไม่มีผู้โดยสารจะไม่ได้รับผลกระทบจากประกาศนี้

4. ให้สายการบินรวมถึงสนามบินจัดเตรียมเอกสารรับรองความจำเป็นให้กับผู้ที่ต้องปฏิบัติงานขนส่งสาธารณะในสังกัดซึ่งได้รับการยกเว้น เพื่อใช้แสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หากมีการตรวจสอบการปฏิบัติงานในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

5. สำหรับสนามบินและสายการบินเส้นทางภายในประเทศที่เปิดให้บริการต้องปฏิบัติดังนี้
          5.1 การบินรับส่งผู้โดยสาร ให้มีจำนวนผู้โดยสารได้ไม่เกิน 50% ของจำนวนความจุของเครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนั้น ๆ และให้จัดที่นั่งตามมาตรการเว้นระยะห่าง ผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกันให้นั่งติดกันได้
          5.2 ก่อนเข้าพื้นที่สนามบิน ให้ตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด ต้องตรวจสอบการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าและตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย (Body Temperature Screening) ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัด (Non-contact Infrared Thermometer) หากบุคคลนั้นไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หรือวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียสหรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบให้ปฏิเสธการเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด
          5.3 ก่อนออกบัตรโดยสาร ให้สายการบินตรวจสอบเอกสารสำคัญของผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันโรคของจังหวัดปลายทางอย่างเคร่งครัด หากพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน ให้พิจารณาระงับการออกบัตรโดยสาร
          5.4 ให้สายการบินตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารโดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัดก่อนขึ้นเครื่องที่สถานีต้นทาง หากวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที
          5.5 ก่อนออกจากพื้นที่สนามบิน ให้สนามบินตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มงวดโดยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัด หากวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อย หอบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที 
          5.6 ให้สนามบินติดตามดูแลผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. โดยเคร่งครัด
          5.7 ให้สนามบินและสายการบินเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามดูแลให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการในระเบียบสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยว่าด้วยแนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารสำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) พ.ศ. 2564 ประกาศ ณ วันที่ 9 เมษายน 2564 และปฏิบัติตามแนวทางมาตรการแนวปฏิบัติที่ ศบค. หรือรัฐบาลกำหนดอย่างเคร่งครัด
          5.8 ให้สนามบินและสายการบินแจ้งเตือนผู้โดยสารกรณีเป็นผู้ป่วยยืนยัน หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้งดการเดินทาง หากฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ประสานกับสายการบินเพื่อเตรียมการอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแผนการเดินทางของผู้โดยสารไว้แล้ว และเพื่อให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอในการดำเนินการ จึงขอผ่อนผันต่อ ศบค. เพื่อให้การดำเนินการนี้ มีผลในวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะสิ้นสุด หรือมีประกาศอื่นใดเพิ่มเติม

สามารถตรวจสอบประกาศและมาตรการของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้

###

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากองค์การอนามัยโลก 
ศูนย์ข้อมูลกรมควบคุมโรคติดต่อ โทร 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง 
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ โทร +66 (0) 2694 6000 





แชร์บทความ